Translate

วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

บระเพ็ด เด็ดสมชื่อ

เราสามารถให้นกกินได้ทั้งหมดไม่ว่าจะใบ(ใบหรือยอดอ่นน)นกจะชอบมาก เถาหรือเครือใช้การหั่นเป็นแว่นผสมในน้ำที่เราให้นกกินก็ได้ครับ หรือถ้าชอบแบบง่ายๆก็แค่ตัดเป็นท่อนยาวพอประมาณวางไว้ในกรงให้นกแทะกินเองก็ได้ ฟอพัสที่บ้านชอบแบบนี้มากครับ

สรรพคุณของบอระเพ็ด

  1. บอระเพ็ดสรรพคุณบอระเพ็ด ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส หน้าตาสดชื่น (ใบ)
  2. มีสารต้านอนุมูลอิสระมีส่วนช่วยในการชะลอวัย
  3. ประโยชน์ของบอระเพ็ดช่วยให้ผมดกหนาขึ้นและอาการผมหงอก ผมร่วงก็จะลดน้อยลง ซึ่งจะได้ผลดีอย่างมากกับผู้ที่มีอาการผมหงอกก่อนวัย หากรับประทานผงบอระเพ็ดวันละ 600 mg. เป็นเวลา 1 เดือน
  4. แก้อาการคันหนังศีรษะ รังแค ชันนะตุ
  5. ใช้แก้อาการกระหายน้ำ (เถา,ต้น)
  6. ใช้เป็นยาบำรุงธาตุ บำรุงร่างกาย (ต้น,ใบ)
  7. บอระเพ็ดสรรพคุณใช้เป็นยาอายุวัฒนะ (ราก,ต้น,ใบ) ด้วยการใช้บอระเพ็ด / เมล็ดข่อย / หัวแห้วหมู / เมล็ดพริกไทย / เปลือกต้นพิ้งถ่อน / เปลือกต้นตะโกนา ในสัดส่วนเท่ากันนำมาบดเป็นผงปั้นเป็นยาลูกกลอนเท่าปลายนิ้วก้อยรับประทานก่อนนอน ครั้งละ 2-3 เม็ด หรือจะนำเถาบอระเพ็ดมาหั่นตากแห้งแล้วนำมาบดให้เป็นผงปั้นเป็นลูกกลอนก็ได้
  8. ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง เสริมสร้างภูมิต้านทาน (ราก)
  9. บอระเพ็ดลดความอ้วน (ใบ)
  10. ใช้รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือด (ราก)
  11. สรรพคุณของบอระเพ็ดช่วยรักษาโรคเบาหวาน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือก ด้วยการใช้เถาสดที่โตเต็มที่ตากแห้งแล้วบดเป็นผงนำมาชงน้ำร้อนดื่มครั้งละ 1 ช้อน เช้าและเย็น (เถาสด,ทุกส่วน)
  12. มีสารลดความดันโลหิต ได้แก่ อะดีโนซีน(adenosine), ซาลโซลีนอล(salsolinol),ไฮเจนนามีน(higenamine)(ต้น)
  13. บอระเพ็ดแก้โรคดีซ่าน (ทุกส่วน)
  14. ช่วยรักษาอาการโลหิตคลั่งในสมอง (ใบ)
  15. ช่วยให้เจริญอาหาร (ราก,ต้น)
  16. แก้อาการร้อนใน (เถา,ต้น)
  17. สรรพคุณบอระเพ็ดช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย (ราก)
  18. ช่วยขับเหงื่อ (เถา)
  19. ช่วยฆ่าแมลงในหู (เถา)
  20. แก้รำมะนาด (เถา)
  21. แก้ไข้เหนือ ไข้สันนิบาต ไข้พิษ ไข้จับสั่น (ราก,ต้น,ใบ)
  22. ใช้ถอนพิษไข้ (ราก)
  23. ใช้เป็นยาแก้ไข้ (เถา,ผล) ด้วยการใช้เถาสดประมาณ 30 กรัม นำมาตำคั้นเอาน้ำดื่ม หรือใช้วิธีต้มเคี่ยว (ใส่น้ำ 3 ส่วน ต้มให้เหลือ 1 ส่วน) แบ่งครั้งละ 2-3 ช้อนโต๊ะ ก่อนอาหารวันละ 2-3 ครั้งเมื่อตอนมีไข้ หรือจะนำเถาบอระเพ็ดมาตากแห้งบดให้เป็นผงปั้นเป็นลูกกลอนก็ได้
  24. แก้ไข้มาลาเรีย ด้วยการกินบอระเพ็ดวันละ 2 องคุลีทุกวัน (เถา)
  25. แก้ไข้เพื่อโลหิต แก้เลือดพิการ (ต้น)
  26. แก้อาการแทรกซ้อน ขณะเป็นไข้ทรพิษ (ต้น)
  27. ช่วยให้เสียงไพเราะ (ใบ)
  28. แก้อาการเสมหะเป็นพิษ (ผล)
  29. ช่วยรักษาฟัน (ทุกส่วน)
  30. แก้อาการปวดฟัน (เถา)
  31. แก้สะอึก (ต้น,ผล)
  32. แก้โรคกระเพาะอาหาร ด้วยการใช้บอระเพ็ด 5 ส่วน / มะขามเปียก 7 ส่วน / เกลือ 3 ส่วน / น้ำผึ้งพอควร นำมาคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วรับประทานก่อนอาหาร 3 เวลา
  33. แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ (ราก)
  34. รักษาโรคริดสีดวงทวาร (ทุกส่วน)
  35. รักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ (ทุกส่วน)
  36. แก้อาการมดลูกเสีย (ราก)
  37. ช่วยบำรุงน้ำดี (เถา)
  38. ช่วยขับพยาธิ (ใบ)
  39. สรรพคุณของบอระเพ็ดช่วยฆ่าพยาธิไส้เดือน (เถา)
  40. ช่วยฆ่าพยาธิในท้อง ในฟัน ละในหู (ดอก)
  41. แก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย (ทุกส่วน)
  42. แก้อาการเกร็ง (ทุกส่วน)
  43. ดับพิษปวดแสบปวดร้อน (เถา)
  44. ใช้ล้างแผลที่เกิดจากโรคซิฟิลิส (เถา)
  45. ช่วยรักษาโรคผิวหนัง (เถา,ใบ)
  46. รักษาผดผื่นตามร่างกาย (ใบ)
  47. รักษาบาทะยัก (ทุกส่วน)
  48. แก้อาการปวดฝี (ใบ)
  49. แก้พิษฝีดาษ (ต้น)
  50. แก้ฝีมดลูด ฝีมุตกิต (ทุกส่วน)
  51. ประโยชน์บอระเพ็ดนำมาแปรรูปเป็น บอระเพ็ดแคปซูล
  52. เครดิต http://frynn.com/%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B9%87%E0%B8%94/

ฟ้าทะลายโจร ขมแต่ดี

เราสามารถให้นกกินแบบสดๆเลยก็ได้ หรือถ้าหาต้นสดไม่ได้เนสอาจซื้อแบบแคปซูลมาผสมน้ำให้นกกินได้ครับ

 สรรพคุณของฟ้าทะลายโจรสรรพคุณ ฟ้าทะลายโจรช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย รวมไปถึงช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวในร่างกายให้จับกินเชื้อโรคได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

  1. ฟ้าทะลายโจร สรรพคุณมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
  2. สรรพคุณ ฟ้าทะลายใบใช้เป็นยาขมช่วยทำเจริญอาหาร (ใบ)
  3. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ด้วยการใช้ต้นฟ้าทะลายโจร กระชาย และว่านเอ็นเหลือง นำมาทำเป็นยาเม็ดลูกรับประทาน (ต้น)
  4. ช่วยป้องกันและแก้อาการหวัด คัดจมูก ด้วยการใช้ใบและกิ่งประมาณ 1 กำมือ (สดใช้ 25 กรัม แต่ถ้าแห้งใช้ 3 กรัม) นำมาต้มกับน้ำดื่มก่อนอาหารวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็นหรือในขณะที่มีอาการ (กิ่ง,ใบ)
  5. ช่วยแก้อาการปวดหัวตัวร้อน อาการปวดหัวแบบไม่มีสาเหตุ ด้วยการใช้ใบและกิ่งประมาณ 1 กำมือ (สดใช้ 25 กรัม แต่ถ้าแห้งใช้ 3 กรัม) นำมาต้มกับน้ำดื่มก่อนอาหารวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็นหรือในขณะที่มีอาการ (กิ่ง,ใบ)
  6. ฟ้าทะลาย สรรพคุณช่วยแก้ไข้ทั่วๆไป อาการปวดหัวตัวร้อน เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น (ใบ,กิ่ง)
  7. ช่วยรักษาไข้ไทฟอยด์ ด้วยการรับประทานฟ้าทะลายโจรก่อนอาหารครั้งละ 2 เม็ด วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 3 สัปดาห์ หลังจากนั้นให้กินยาบำรุงเพื่อฟื้นฟูกำลังของผู้ป่วยร่วมด้วย
  8. ช่วยแก้อาการไอ ลดน้้ำมูก และช่วยฆ่าเชื้อที่จมูก ด้วยการใช้ใบนำทำเป็นยาผงแล้วนำมาใช้สูดดม (ใบ)
  9. ช่วยลดและขับเสมหะ ด้วยการใช้ใบนำทำเป็นยาผงแล้วนำมาใช้สูดดม (ใบ)
  10. ช่วยระงับอาการอักเสบ แก้อาการเจ็บคอ คออักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ หลอดลมอักเสบ ด้วยการใช้ใบนำทำเป็นยาผงแล้วนำมาใช้สูดดม (ใบ)
  11. ช่วยแก้อาการติดเชื้อ ระงับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่เป็นเสาหตุทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย ท้องร่วง ท้องเดิน เป็นบิด ด้วยการใช้ทั้งต้น (ส่วนทั้ง 5 ข้องฟ้าทะลายโจร) นำมาผึ่งลมให้แห้งแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ประมาณ 1 กำมือ (น้ำหนักประมาณ 3-9 กรัม) แล้วนำมาต้มกับน้ำดื่มตลอดวัน (ทั้งต้น)
  12. ช่วยแก้อาการร้อนใน ด้วยการใช้ใบฟ้าทะลายโจรตากแห้ง 15 กรัม และเตยหอมสดหั่นแล้ว 15 กรัม นำมาต้มกับน้ำพอท่วมยาจนเดือด ใช้ดื่มก่อนอาหารเช้า กลาง เย็น จะช่วยทำให้อาการร้อนในดีขึ้น แต่ถ้าอยากให้หายขาด แนะนำว่าไม่ต้องดื่มน้ำหลังอาหารมากเกินไป รับประทานอาหารให้ตรงเวลา และออกกำลังกายทุกวัน อาการร้อนในก็จะหายไปในที่สุด (ใบ)
  13. ฟ้าทะลายโจรมีรสขมมาก โดยความขมจะเหนี่ยวนำช่วยทำให้ขับน้ำลายออกมามากขึ้น จึงทำให้ชุ่มคอ
  14. ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ช่วยฆ่าชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจ
  15. ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ในการช่วยลดการบีบตัวของกล้ามเนื้อเรียบ ช่วยคลายกล้ามเนื้อมดลูกขาว
  16. ฟ้าทะลายโจรมีส่วนช่วยลดการติดเชื้ออหิวาตกโรคในอุจจาระ แต่อาจจะไม่ดีเท่าการใช้ยาเตตราซัยคลินในการรักษา แต่ก็สามารถใช้ทดแทนได้
  17. ช่วยรักษากระเพาะลำไส้อักเสบ (ใบ)
  18. ฟ้าทะลายโจร สรรพคุณช่วยในการย่อยอาหาร และช่วยเร่งให้ตับสร้างน้ำดี
  19. ช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวง ด้วยการรับประทานฟ้าทะลายโจรก่อนอาหารและก่อนนอนครั้งละ 2-3 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง จะช่วยทำให้อาการเลือดออกหรืออาการปวดถ่วงหายไป ทำให้ขับถ่ายได้สะดวกยิ่งขึ้น
  20. ช่วยรักษาโรคตับ ด้วยการรับประทานฟ้าทะลายโจรก่อนอาหารวันละ 2-3 เม็ด วันละ 3 ครั้ง (และควรใช้ยาบำรุงชนิดอื่นด้วย)
  21. ช่วยรักษาโรคผิวหนังฝี แผลฝี ด้วยการใช้ใบค่อนข้างแก่ประมาณ 1 กำมือ แล้วเอาเกลือ 3 เม็ด นำมาผสมตำรวมกันในครกจนละเอียด แล้วเอาสุราครึ่งถ้วยชา น้ำครึ่งช้อนชา ใส่รวมลงไปคนให้เข้ากันแล้วเทกินค่อนถ้วยชา ส่วนกากที่เหลือนำมาพอกแผลฝี แล้วใช้ผ้าสะอาดพักไว้ ตอนพอกเสร็จใหม่อาจจะรู้สึกปวดบ้างเล็กน้อย (ใบ)
  22. ช่วยรักษาแผลอักเสบที่เกิดจากโรคเบาหวาน ด้วยการรับประทานเป็นยาฟ้าทะลายโจรแบบเม็ดและการใช้ทาเพื่อรักษาอาการ
  23. ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดหนองได้ (ใบ)
  24. ช่วยรักษาโรคงูสวัด ด้วยการรับประทานฟ้าทะลายโจรก่อนอาหาร 2-3 เม็ดวันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เนื่องจากงูสวัดคือเชื้อไวรัสที่จะอยู่นาน 3 สัปดาห์ ถ้าใช้รักษาครบตามเวลา ก็จะทำให้ไม่กลับมาเป็นอีก
  25. ต้นฟ้าทะลายโจร จัดเป็นพืชล้มลุกที่มีความสูงประมาณ 30-70 เซนติเมตร หรือประมาณ 1-2 ศอก ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม แตกกิ่งมาก ทุกส่วนของต้นมีรสขม กิ่งเป็นใบสีเหลี่ยม
  26. ฟ้าทลายโจร
          ที่มา http://frynn.com/%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B8%A3/ 

ตะไคร้ สมุนหาง่ายมีทุกบ้าน

ตะไคร้ มีถื่นกำเนิดใน ประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย พม่า ศรีลังกา และไทย ตะไคร้ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Cymbopogon citratus (DC.) Stapf ส่วนชื่อตะไคร้ภาษาอังกฤษจะ ใช้คำว่า Lemongrass จัดเป็นพิชล้มลุก ใบเรียวยาว ปลายใบมีขนหนาม เป็นพืชตระกูลหญ้า
ตะไคร้จัดเป็นสมุนไพรไทยชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยตะไคร้แบ่งออกเป็น 6 ชนิด ซึ่งได้แก่ ตะไคร้หอม ตะไคร้กอ ตะไคร้ต้น ตะไคร้น้ำตะไคร้หางนาค และตะไคร้หางสิงห์ ซึ่งเป็นสมุนไพรไทยที่นิยมปลูกทั่วไปในบ้านเรา
ตะไคร้ เป็นสมุนไพรเพื่อสุขภาพ โดยประโยชน์ของตะไคร้และสรรพคุณของตะไคร้นั้นมีมากมาย สรรพคุณตะไคร้เป็นทั้งยารักษาโรคและยังมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย เช่น วิตามินเอ ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เป็นต้น 
โดยเราสามารถให้นกเรากินได้ทั้งต้นและใบครับ ที่บ้านจะเอาใบวางในกรงสว่นลำต้นนั้นเราอาจจะหั่นให้ชิ้นใหญ่หยาบๆเพื่อให้นกแทะกินได้ง่ายครับ

สรรพคุณของตะไคร้

  1. มีส่วนช่วยในการขับเหงื่อ
  2. เป็นยาบำรุงธาตุไฟให้เจริญ (ต้นตะไคร้)
  3. มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยในการเจริญอาหาร
  4. ช่วยแก้อาการเบื่ออาหาร (ต้น)
  5. สารสกัดจากตะไคร้มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคเมะเร็งลำไส้ใหญ่
  6. แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ
  7. ช่วยรักษาอาการไข้ (ใบสด)
  8. ใช้เป็นยาแก้ไข้เหนือ (ราก)
  9. น้ำมันหอมระเหยของใบตะไคร้ สามารถบรรเทาอาการปวดได้
  10. ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ
  11. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง (ใบสด)
  12. ใช้เป็นยาแก้อาเจียน หากนำไปใช้ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ (หัวตะไคร้)
  13. ช่่วยแก้อาการกษัยเส้นและแก้ลมใบ (หัวตะไคร้)
  14. รักษาโรคหอบหืด ด้วยการใช้ต้นตะไคร้
  15. ช่วยแก้อาการเสียดแน่นแสบบริเวณหน้าอก (ราก)
  16. ใช้เป็นยาแก้อาการปวดท้องและอาการท้องเสีย (ราก)
  17. ช่วยแก้และบรรเทาอาการปวดท้อง
  18. ช่วยรักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ (หัวตะไคร้)
  19. ช่วยในการขับน้ำดีมาช่วยในการย่อยอาหาร
  20. น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ มีส่วนช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ได้
  21. มีฤทธิ์ช่วยในการขับปัสสาวะ
  22. ช่วยแก้อาการปัสสาวะพิการ และรักษาโรคนิ่ว (หัวตะไคร้)
  23. ช่วยแก้อาการขัดเบา (หัวตะไคร้)
  24. ใช้เป็นยาแก้ขับลม (ต้น)
  25. ช่วยรักษาอหิวาตกโรค
  26. ช่วยแก้ลมอัมพาต (หัวตะไคร้)
  27. ใช้เป็นยารักษาเกลื้อน (หัวตะไคร้)
  28. น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ สามารถช่วยต่อต้านเชื้อราบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี
  29. ช่วยแก้โรคหนองใน หากนำไปผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ
  30. อ้างอิง http://frynn.com/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%89/

วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

กระเพรา

กะเพราจัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง ที่มีสรรพคุณทางยาช่วยรักษาโรคได้หลายชนิด ทั้งตำรับยาไทยและต่างประเทศก็ระบุว่ากะเพราเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณหลายด้าน อย่างตำราสมุนไพรไทยบ้านเราก็บรรยายสรรพคุณของกะเพราเอาไว้ว่า รสฉุน ร้อน ช่วยขับลมแก้ซาง แก้ท้องขึ้น จุกเสียดแน่นท้อง ปวดท้อง ช่วยในการย่อยอาหาร และช่วยบำรุงธาตุ เป็นต้น และในต่างประเทศก็มีการใช้กะเพราในการรักษาโรคกันอย่างกว้างขวางยิ่งกว่าบ้านเราเสียอีก โดยเฉพาะประเทศอินเดีย เขาถือว่ากะเพราเป็นยารักษาโรคได้ทุกโรค และยังจัดเป็นราชินีแห่งสมุนไพร (The Queen of herbs) หรือเป็นยาอายุวัฒนะ (The Elixir of life) เลยก็ว่าได้
กะเพราะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ กะเพราะแดง และ กะเพราะขาว โดยกะเพราแดงจะมีฤทธิ์ที่แรงกว่ากะเพราขาว ในสรรพคุณทางยาจึงนิยมใช้กะเพราแดง โดยส่วนที่นำมาใช้ทำเป็นยาสมุนไพร ก็ได้แก่ ส่วนของใบ ยอดกะเพรา (ทั้งสดและแห้ง) และทั้งต้น แต่ถ้านำมาใช้ประกอบอาหารจะนิยมใช้กะเพราขาวเป็นหลัก เราให้นกกินได้ง่ายครับ แค่วางกิ่งกระเพราไว้ในกรงนกได้เลยครับที่เหลือเดี๋ยวน้องๆเขาจัดการเอง ที่บ้านก็ชอบมากครับ

สรรพคุณของกะเพรา

  1. ประโยชน์ของกะเพราใช้ทำเป็นยาอายุวัฒนะ (the elixir of life)
  2. ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น และป้องกันอาการหวัดได้ (ใบ)
  3. กะเพราเป็นส่วนประกอบของยาสมุนไพรหลายชนิด เช่น ยารักษาตายขโมยสำหรับเด็ก ยาแก้ทางเด็ก ฯลฯ
  4. รากแห้งนำมาชงหรือต้มกับน้ำร้อนดื่ม ช่วยแก้โรคธาตุพิการ (ราก)
  5. ช่วยบำรุงธาตุไฟ (ใบ)
  6. ช่วยแก้อาการคลื่นเหียนอาเจียน (ใบ)
  7. ช่วยแก้อาการปวดด้วย ด้วยการใช้ใบกะเพรานำมาคั้นรับประทานสด 1 ถ้วยตะไล จะช่วยแก้อาการปวดมวนท้องได้เป็นอย่างดี (ใบ)
  8. ช่วยขับลมแก้อาการปวดท้องอุจจาระ (ใบ)
  9. ใบกะเพราสรรพคุณช่วยขับลมในกระเพาะ (ใบ)
  10. ช่วยแก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง (ใบ)
  11. สรรพคุณกะเพราช่วยแก้ลมซานตาง (ใบ)
  12. น้ำสกัดจากทั้งต้นของกะเพรามีฤทธิ์ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ (น้ำสกัดจากทั้งต้น)
  13. ช่วยย่อยไขมัน (น้ำสกัดจากทั้งต้น)
  14. ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร (น้ำสกัดจากทั้งต้น)
  15. กะเพรา สรรพคุณช่วยขับน้ำดี (น้ำสกัดจากทั้งต้น)
  16. ช่วยแก้ลมพิษ ด้วยการใช้ใบกะเพราประมาณ 1 กำมือนำมาตำผสมเหล้าขาวแล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นลมพิษ (ใบ)
  17. สรรพคุณของกะเพราใช้ทำเป็นยารักษากลากเกลื้อน ด้วยการใช้ใบสดประมาณ 20 ใบนำมาขยี้ให้น้ำออกมา แล้วนำมาใช้ทาบริเวณที่เป็นวันละ 2-3 ครั้งจนกว่าจะหาย (ใบ)
  18. ใช้เป็นยารักษาหูด ด้วยการใช้ใบกะเพราแดงสดนำมาขยี้แล้วทาบริเวณที่เป็นหูดเช้า-เย็น จนกว่าหัวหูดจะหลุดออกมา โดยระวังอย่าให้เข้าตาและถูกบริเวณผิวที่ไม่ได้เป็นหูด เพราะจะทำให้เนื้อดีเน่าเปื่อยและรักษาได้ยาก (ใบสด)
  19. ช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้ ด้วยการใช้ใบกะเพรานำมาตำผสมกับเหล้าขาว แล้วนำมาทาบริเวณที่ถูกกัด ห้ามนำมารับประทานเด็ดขาดเพราะจะมีสารยูจีนอล (Eugenol) ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะ อาหารและอาจถึงขั้นโคม่าได้ (ใบ)
  20. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคและช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดได้ (น้ำมันใบกะเพรา)
  21. มีงานวิจัยพบว่ากะเพราสามารช่วยยับยั้งสารอะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเป็นสารพิษที่มักพบเจือปนในอาหารซึ่งเป็นสารก่อโรคมะเร็งได้ (สารกสัดจากกะเพรา)
  22. ใบกะเพรา มีฤทธิ์ในการช่วยขับไขมันและน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกาย ช่วยลดระดับไขมันในร่างกายและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้ โดยมีการใช้ใบกะเพราะในกระต่ายทดลอง โดยให้กระต่ายกินใบกะเพราติดต่อ 4 สัปดาห์พบว่าระดับไขมันโดยรวมลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันเลว (LDL) ลดลง แต่ไขมันชนิดดี (HDL) กลับเพิ่มขึ้น
  23. ช่วยเพิ่มน้ำนมให้สตรีหลังคลอดบุตร ด้วยการใช้ใบกะเพราสดประมาณ 1 กำมือ นำมาใส่แกงเลียงรับประทานบ่อยๆ ในช่วงหลังคลอด (ใบ)
  24. เมล็ดนำไปแช่น้ำจะพองตัวเป็นเมือกขาว นำมาใช้พอกบริเวณตา เมื่อมีฝุ่นละอองหรือเศษผงเข้าตา ผงหรือฝุ่นละอองก็จะหลุดออกมา โดยไม่ทำให้ตาของเรานั้นช้ำอีกด้วย (เมล็ด)
  25. ใบและกิ่งสดของกะเพรามีการนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยด้วยการต้มกลั่นจนได้น้ำมันหอมระเหยร้อยละ 0.08 – 0.1 โดยมีราคาประมาณกิโลกรัมละหนึ่งหมื่นบาท
  26. สรรพคุณของกะเพราใช้ไล่ยุงหรือฆ่ายุง ด้วยการใช้ทั้งใบสดและกิ่งสด เอาใบมาขยี้แล้ววางใกล้ตัวๆ จะช่วยไล่ยุงและแมลงได้ โดยน้ำมันกะเพราะที่สกัดมาจากใบจะมีคุณสมบัติช่วยไล่ยุงได้ดีกว่าต้นสด (ใบสด,กิ่งสด)
  27. น้ำมันสกัดจากใบสด ช่วยล่อแมลง ทำให้แมลงวันทองบินมาตอมน้ำมันนี้ (น้ำมักสกัดจากใบสด)
  28. ประโยชน์ของกะเพรา ใช้ในการประกอบอาหารและช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ ในเมนูกะเพราะสุดโปรด เช่น ผัดกะเพรา แกงเลียง แกงป่า แกงคั่ว แกงเขียวหวาน แกงส้มมะเขือขื่น ผัดกบ ผัดหมู ผัดปลาไหล พล่าปลาดุก พล่ากุ้ง หรือจะนำใบกะเพรามาทอดแล้วใช้โรยหน้าอาหารเมนูต่างๆก็ได้ ฯลฯ
  29. ใบกะเพราสามารถช่วยดับกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ได้ (ใบ)      
  30. เครดิตครับ http://frynn.com/%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2/

อาหารไข่


อาหารไข่ชนิดแห้งอาหารไข่ไบโอวิท ที่นอกจากจะอุดมไปด้วย กรดอะมิโนประเภท ไลซีน(Lysine) และ เม็ตทิโอนีน(Methionine) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตทั้งโครงสร้างและสีของลูกนก รวมทั้งไบโอติน(Biotin)ที่ช่วยลดโอกาศไข่ไม่ติดเชื้อเชื้อ และยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุนานาชนิดแล้ว ยังเป็นอาหารไข่เพียงยี่ห้อเดียวที่ผสมโปรไบโอติก(Probiotic)สารสำคัญในการปรับสมดุลของนก สร้างภูมิต้านทาน เพิ่มประสิทธิภาพการย่อยและดูดซึมอาหาร ช่วยให้นกแข็งแรงสมบูรณ์ เหมาะสำหรับพ่อแม่นกที่อยู่ในช่วงผสมพันธุ์และลูกนกในช่วงป้อน
วิธีใช้
เทอาหารไข่ให้กินควบคู่กับอาหารประจำวัน
 เครดิตครับ  http://www.pamornchaisupply.com/bird-supplement-biovit-egg-food.asp
เหมาะเสริมให้นกครับ

อาหารเสริมหลักๆ


ดินดำ ดินดำ ปกติตามธรรมชาตินกจะกินดิน เนื่องจากในดินนั้นมีสารอาหาร และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายผมจะแบ่งใส่ถ้วยแยกไว้ไว้ให้นกกินครับ  


ผงชมพู  แร่ธาตุสีชมพูยอดนิยมที่อัดแน่นไปด้วยวิตามินกว่า 10 ชนิด อาทิ A,D3,B1,B2,B3,E,PP และอื่นๆB12 ในเบลวิมินเป็นตัวเสริมสร้างระดับ Hemogolbin ในเลือดจึงทำให้นกสามารถดึงพลังงานจากอาหารที่กินเข้าไปมาใช้ได้อย่างเต็มที่และยังประกอบด้วยสารต่างๆและแคลเซี่ยมในปริมาณไม่น้อยกว่า 25%และยังช่วยเพิ่มประสิทะฺภาพในการย่อยได้เป็นอย่างดี    ผมจะแบ่งใส่ถ้วยแยกไว้ไว้ให้นกกินครับ  


กระดองปลาหมึก  กระดองปลาหมึกเป็นแหล่งแคลเซียมและแร่ธาตุ และเนื่องจากนกต้องการบริโภคแคลเซียมตลอดทั้งปี กระดองปลาหมึกจึงเหมาะที่จะเป็นอาหารเสริมสำหรับนก โดยเฉพาะนกในช่วงวางไข่ที่จะมีความต้องการแคลเซียมมากเป็นพิเศษ เพื่อการสร้างเปลือกไข่ นอกจากนี้นกยังได้รับประโยชน์จากการได้ใช้จะงอยปากขูดลงที่กระดองปลาหมึก เพื่อลับฝนให้จะงอยปากนกอยู่ในสภาพดีเสมออีกด้วย ซึ่งผมจะแขวนไว้ในกรงให้นกกินครับ

สามอย่างนี้ผมถือว่าสำคุญมากครับสำหรับนกฟอพัส

ขอบคุณข้อมูลจากหลายๆเวปนะครับ

วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

อาหาร

นกฟอพัสเป็นนกที่มีขนาดเล็กรองลงมาจาก เลิฟเบิร์ด สำหรับมือใหม่อาจจะกังวลว่าถ้านกกินอาหารเองเป็นจะเอาอาหารแบบไหนเลี้ยงเขา ถ้าถามผมตอนแรกผมก็ใช้อาหารเลิฟเบิร์ดเลี้ยงซึ่งก็ให้ผลลัพท์ที่น่าพอใจ
ต่อมาเริ่มเรียนรู้ศึกษาก็เลยมาทดลองต่อที่อาหารผสมของเบเยอร์ 13 อย่าง
และมาลองใช้ของเบเยอร์ 9 อย่าง
ซึ่งทั้งหมดสามารใช้เลี้ยงฟอพัสได้ แต่ถ้าใช้ อาหารผสมของเบเยอร์ 13 อย่าง  ก็จะดีอย่างคือไม่ต้องผสมอะไรให้ยุ่งยากเนื่องจากผสมมาให้ครบทุกอย่างแล้ว
แต่ถ้าใช้ เบเยอร์ 9 อย่าง เราอาจจะต้องผสมเมล็ดทานตะวันเสริมครับเพราะในอาหารยังไม่ได้ผสมมา
ทำไมผมถึงใช้อาหารนี้ ผมต้องการให้ฟอพัสเป็นนกที่เลี้ยงง่ายกินได้ทุกอย่างใครๆก็เลี้ยงได้ ผมเลยใช้อาหารที่หาได้ง่ายที่สุดครับ
ปล อันนี้ผมเลี้ยงตามแบบของผมครับ แต่ท่านอื่นๆอาจจะมีการผสมอย่างอื่นให้นกครับ

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เชื่อไหมครับ

สิ่งที่ผมอยากบอกก็คือว่า
การเลี้ยงนกฟอพัสนั้นแสนง่าย และให้ลูกดก เลี้ยงลูกเก่ง แข็งแรง โรครบกวนน้อย
แต่ที่ผมอยากพูดถึงก็คือ
ตั่งแต่ที่ทุกท่านเริ่มเลี้ยงนกความรู้สึกนี้ท่านเคยเจอไหมครับ
เริ่มเลี้ยงแรกๆจะซื้อสีไหนมาเลี้ยงดีหว่าเอามาเลี้ยงตอนเป็นลูกป้อนจะรอดไหม เอามาเลี้ยงตัวเดียวดีไหม นกจะเชื่องไหม
พอเลี้ยงนกโตมานกเริ่มอายุมากพอ ก็ต้องถามตัวเองอีกเอามาอีกตัวเป็นคู่ดีไหม เอาสีอะไรดี 
พอนกเข้าคู่ก็มาลุ้นว่านกจะไข่ตอนไหน บางคนลุ้นยังกะซื้อหวย หรือส่งเลขฝาชาลุ้นเงินล้าน
พอไข่ออกมาต้องมาลุ้นอีกว่าพอแม่จะเหยียบไข่แตก หรือกินไข่ไหมถ้าไม่ทำทั้งสองอย่างก็ มาลุ้นครับว่าไข่จะมีเชื้อไหม 
พอไข่มีเชื้อเสร็จ ก็ต้องมาลุ้นว่าจะออกเป็นตัววันไหน ซึ่งถ้าหน้าร้อนก็กลัวนกออกจากไข่ไม่ได้ตายคาไข่ หนาวก็กลัวเชื้อตาย ฝนก็กลัวไข่เน่า
พอฟักออกมาต้องมาลุ้นว่าพ่อแม่มือใหม่จะเลี้ยงลูกดีไหม แต่ที่แน่ๆฟอพัสเลี้ยงลูกเก่งมากครับ
แล้วสิ่งที่ทุกคนรอคอย คือลูกนกจะออกมาสีสวยไหม สีที่เราต้องการไหม และจะได้สีแปลกๆไหม
สุดท้ายก็ต้องมาคิดว่านกโตแล้วจะเลี้ยงหมดไหม
ซึ่งทุกขั้นตอนผมอยากบอกเลยว่าความสุขทั้งนั้นครับตั้งแต่เริ่มเลี้ยงจนถึงนกมีลูก
ดังนั้นท่านใดที่กำลังเลี้ยงและลุ้นอยู่ขอให้ได้ลูกนกและสมหวังกับทุกสิ่งที่ต้องการครับ

น้ำสะอาดสุดสำคัญ

นกต้องการน้ำแบบไหน
เพียวๆ น้ำเปล่าสะอาดๆ 
แบบมิกเซอร์ผสมวิตามินแบบขอแจ้มจ้น(เข้มข้น)
หรือเป็นน้ำหวาน
หรือเป็นน้ำขิง
เท่าที่ผมได้ลองหาข้อมูลเวปนอกแปลแบบถูกคำผิดคำของผมทำให้ทราบว่า นกในธรรมชาตินั้นต้องการแค่น้ำเปล่าที่สะอาดทุกวัน แต่ในเมื่อเรากลัวเขาขาดวิตามิน ขาดโน่นนี่นั่นที่นกในธรรมชาติหากินเองได้ เราจะให้นำสะอาดเขาได้ไหม ง่ายครับให้ได้ครับ ผมก็ผสมน้ำให้เขากิน แต่ที่เพิ่มขึ้นมานกจากน้ำในถ้วยคือผมจะเพิ่มหลอดน้ำอีกอันครับทำให้นกที่บ้านได้กินน้ำทั้งสองแบบ ลองดูก็ได้ครับ แต่ก่อนผมก็มีถ้วยเดียวกลับมาเศษอาหารเต็มถ้วยตอนนี้มีหลอดใส่น้ำทำให้น้ำสะอาดมีตลอดและนกได้เล่นน้ำในถ้วยได้ด้วย